สถิติการเยี่ยมชมบล็อกของฉัน

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

วนอุทยานน้ำตกบัวตอง – น้ำพุเจ็ดสี

 วนอุทยานน้ำตกบัวตอง – น้ำพุเจ็ดสี


 
       
      วนอุทยานน้ำตกบัวตอง – น้ำพุเจ็ดสี ตั้งอยู่ในเขตท้องที่ตำบลแม่หอพระ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2537 มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 15 ตารางกิโลเมตร หรือ 9,375 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหุบเขา ภูเขา และลำห้วย มีทัศนียภาพเป็นป่าเขาและน้ำตกที่สวยงาม จึงได้รับการสงวนไว้และจัดตั้งเป็นวนอุทยาน เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน หย่อนใจ แก่ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวทั่วไป
     วนอุทยาน น้ำตกบัวตอง – น้ำพุเจ็ดสี มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ซึ่งทริปนี้หมูหิน.คอมจะพาเพื่อน ๆ ตะลุยทั่ววนอุทยานให้ชื่นฉ่ำใจไปเลย พอขับรถเข้ามาภายในวนอุทยานก็จะพบกับลานจอดรถที่กว้างขวาง และร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปบังแสงแดดให้นักท่อง เที่ยวได้รับแต่ความร่มรื่น บวกกับสายลมแผ่ว ๆ ที่พัดมาเป็นระลอก ๆ บรรยากาศดีสุด ๆ คิดไปคิดมาหากได้เสื่อ 1 ผืนและหมอนสักใบแล้วละก็ รับรองหลับ !!!
หลังจากที่จอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินมายังลานเอนกประสงค์ เป็นลานหญ้ากว้าง ๆ มีไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวเลือกปูเสื่อนั่งกันอย่างสบายใจ มีร้านค้า ร้านกาแฟ และจุดบริการนักท่องเที่ยว หากใครต้องการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ภายในวนอุทยาน หรือ หากต้องการค้างคืนที่วนอุทยานก็สามารถติดต่อประสานงานได้ที่จุดบริการนัก ท่องเที่ยว ณ บริเวณที่ทำการวนอุทยาน หากใครที่ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับค้างคืน ไม่ว่าจะเป็นเต้นท์ ผ้าห่ม หมอน ทางวนอุทยานก็มีไว้คอยบริการอย่างครบครัน เรียกได้ว่าหากพักผ่อนยังไม่จุใจ จะขอนอนค้างคืนต่อก็ไม่มีใครว่า เพียงแค่ติดต่อสอบถามข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ รับรองว่าทางวนอุทยานจะเนรมิตวันสบายๆ ของเพื่อน ๆ ให้เป็นวันที่พิเศษสุด ๆ
หลัง จากที่จับจองที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวตะลุยกันให้ทั่ววนอุทยานไปเลย เริ่มตั้งแต่จุดแรก ซึ่งเป็นจุดที่แปลกไม่ซ้ำใคร นั่นก็คือ “น้ำพุเจ็ดสี” เป็นน้ำพุธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติอย่างแท้จริงไม่ อิงนิยาย ที่สำคัญเป็น “น้ำพุเย็น” มีเจ็ดสี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการวนอุทยานประมาณ 400 เมตร ตัวน้ำพุมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ความพิเศษอยู่ที่อุณหภูมิของน้ำพุ ซึ่งต่างจากที่อื่น ๆ นั่นก็คือ อุณหภูมิของน้ำจะเย็นในระดับอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนเหมือนน้ำพุทั่วไป ( อันนี้การันตีได้จากเจ้าปลาตัวน้อย ๆ ที่แหวกว่ายไปมาในบริเวณน้ำพุ ) น้ำพุเจ็ดสีแห่งนี้เกิดจากการที่สารละลายแคลเซียมคาร์บอเนตผสมอยู่ ซึ่งสารละลายตัวนี้จะทำปฏิกิริยากับน้ำที่ผุดขึ้นมาให้เป็นน้ำที่มีความใส เป็นประกาย เมื่อเวลาที่มีแสงส่องลงมากระทบกับน้ำในบ่อ จะทำให้เห็นน้ำเป็นสีรุ้ง ซึ่งก็คือ สีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง นั่นเอง แหม! ความรู้อันนี้เกือบจะคืนคุณครูไปแล้วนะเนี่ยะ
เค้า ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวที่น้ำตกบัวตองและน้ำพุเจ็ดสีแล้ว เมื่อมาถึงยังน้ำพุเจ็ดสีแล้วก็จะต้องตักน้ำในบ่อมาล้างหน้า ล้างตา เพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำของเทวดาที่เนรมิตขึ้นสำหรับผู้ที่มีบุญ สาเหตุที่มีการกล่าวขานแบบนี้ก็เพราะว่า ในสมัยก่อนมีตำนานกล่าวกันว่ามีเมืองหนึ่งเมืองได้ทำศึกสงคราม รบราฆ่าฟันกัน เพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในล้านนา ทำให้เจ้าเมือง มเหสี และทหารเสียเลือดเสียเนื้อกันไม่ใช้น้อย เหลือเพียงพระธิดาอยู่สององค์ คือ พระธิดาบัวแก้ว และพระธิดาบัวตอง ซึ่งขุนผาดำคนสนิทของเจ้าเมือง ได้พาพระธิดาทั้งสองหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งก็คือถ้ำบัวตองในปัจจุบัน ต่อมาก็ได้จัดทำสวนดอกไม้ให้กับพระธิดาทั้งสอง ซึ่งก็คือบริเวณลานจอดรถ ของวนอุทยานในปัจจุบัน แต่เนื่องด้วยบริเวณนั้นไม่มีน้ำเลย พระธิดาทั้งสองก็เลยอธิฐานขอให้มีแหล่งน้ำไว้ใช้ดื่มกิน เทวดาจึงให้พระแม่ธรณีดำแทรกแผ่นดินเป็นธารน้ำใต้ดิน ซึ่งต้องอาศัยภูเขามากถึง 5 – 6 ลูก กลายเป็น “น้ำพุ” ขนาดใหญ่พุ่งแรงผุดขึ้นมา เทวดาจึงได้ให้กุมภัณฑ์เป็นผู้ดูแลน้ำพุไม่ให้ใครเข้าใกล้เพราะกลัวว่าน้ำ ขุ่นมัว ชาวบ้านจึงเรียกน้ำพุแห่นี้ว่า “หนองผีอ้าย หรือหนองผีดุ” นั่นเอง ใครที่เป็นคนคิดไม่ดี ไม่ซื่อ จะไม่มีโอกาสเข้าใกล้น้ำพุแห่งนี้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ปฏิทิน

เพลง ความพยายาม