อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
แก่งตะนะ ลำน้ำมูลเมื่อไหลอ้อมดอนตะนะทั้งสองด้านแล้ว จะไหลลงมาทางแก่งตะนะ กลางแก่งตะนะมีโขดหินมหึมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูล จากทั้งสองที่เชี่ยวกรากจะกัดเซาะลงในแนวโขดหินสูงราว 1 เมตร บ้างก็ไหลซอกซอนไปตามร่องหินและลานหินริมฝั่งมูล ถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยฝรั่งเศสยังล่าอาณานิคมเพื่อใช้เป็นเครื่องชี้ร่องน้ำในการเดินเรือ บริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำอีกหลายแห่ง จึงทำให้ปลาบริเวณแก่งตะนะชุกชุม
แก่งคันเหว่ ประกอบ ด้วยแนวหินยาวประมาณ 1 กิโลเมตร กว้างราว 300 เมตร และยังมีหาดทรายตามแก่งหิน ประกอบด้วยโขดหินใหญ่น้อย เกลี้ยงเกลา มีหลุมยุบและรอยแหว่งเว้าปรากฏอยู่ทั่วไป ในเดือนธันวาคมลำน้ำมูลจะเอ่อไหลตามแก่งหินอย่างเชี่ยวกรากทำให้เกิด ทัศนียภาพที่สวยงาม
น้ำตกตาดโตน เป็นน้ำตกที่ตกจากชั้นหิน ที่มีแนวโค้งคล้ายจอภาพยนตร์ อยู่บริเวณห้วยตาดโตน
น้ำตกและบึงห้วยหมาก อยู่บริเวณเหนือบ้านห้วยหมาก เป็นบึงใหญ่มีน้ำนิ่ง และไหลตกเป็นทางยาวลงมาบนชั้นหินที่ซ้อนเหลื่อมล้ำเป็นแนวทอดต่ำลงมา
น้ำตกห้วยกว้าง อยู่ใกล้เขตสุขาภิบาลอำเภอโขงเจียม มีน้ำตกลงไปตามซอกหินเป็นชั้นลดหลั่นลงมา
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว และได้จัดสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว
การเดินทาง
รถยนต์ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อยู่ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 90 กิโลเมตรและสามารถเดินทางมาได้ 2 เส้นทาง คือ แก่งตะนะฝั่งขวาไปทางอำเภอวารินชำราบทางหลวงหมายเลข 217 ผ่านอำเภอวารินชำราบถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2173 ไปสู่ช่องเม็กถึงหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านคำเขื่อนแก้ว เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2296 สุดทางจะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ แก่งตะนะ หรือแก่งตะนะฝั่งขวา ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร
แก่งตะนะฝั่งซ้าย เส้นทางเดียวกับเส้นทางแรก เมื่อถึงอำเภอพิบูลมังสาหารเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร 200 ปี ไปตามเส้นทางโขงเจียม ก่อนถึงโขงเจียม 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวขวาเข้าไปยังแก่งตะนะฝั่งซ้ายได้ ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร
แก่งคันเหว่ ประกอบ ด้วยแนวหินยาวประมาณ 1 กิโลเมตร กว้างราว 300 เมตร และยังมีหาดทรายตามแก่งหิน ประกอบด้วยโขดหินใหญ่น้อย เกลี้ยงเกลา มีหลุมยุบและรอยแหว่งเว้าปรากฏอยู่ทั่วไป ในเดือนธันวาคมลำน้ำมูลจะเอ่อไหลตามแก่งหินอย่างเชี่ยวกรากทำให้เกิด ทัศนียภาพที่สวยงาม
น้ำตกตาดโตน เป็นน้ำตกที่ตกจากชั้นหิน ที่มีแนวโค้งคล้ายจอภาพยนตร์ อยู่บริเวณห้วยตาดโตน
น้ำตกและบึงห้วยหมาก อยู่บริเวณเหนือบ้านห้วยหมาก เป็นบึงใหญ่มีน้ำนิ่ง และไหลตกเป็นทางยาวลงมาบนชั้นหินที่ซ้อนเหลื่อมล้ำเป็นแนวทอดต่ำลงมา
น้ำตกห้วยกว้าง อยู่ใกล้เขตสุขาภิบาลอำเภอโขงเจียม มีน้ำตกลงไปตามซอกหินเป็นชั้นลดหลั่นลงมา
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว และได้จัดสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว
การเดินทาง
รถยนต์ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อยู่ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 90 กิโลเมตรและสามารถเดินทางมาได้ 2 เส้นทาง คือ แก่งตะนะฝั่งขวาไปทางอำเภอวารินชำราบทางหลวงหมายเลข 217 ผ่านอำเภอวารินชำราบถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2173 ไปสู่ช่องเม็กถึงหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านคำเขื่อนแก้ว เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2296 สุดทางจะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ แก่งตะนะ หรือแก่งตะนะฝั่งขวา ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร
แก่งตะนะฝั่งซ้าย เส้นทางเดียวกับเส้นทางแรก เมื่อถึงอำเภอพิบูลมังสาหารเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร 200 ปี ไปตามเส้นทางโขงเจียม ก่อนถึงโขงเจียม 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวขวาเข้าไปยังแก่งตะนะฝั่งซ้ายได้ ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบ เป็นเขาเตี้ย ๆ มีแม่น้ำมูล แม่น้ำโขง ไหลผ่าน ความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาบรรทัด สูงประมาณ 543 เมตร สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดง จะมีป่าดิบเฉพาะบริเวณริมห้วยใหญ่เท่านั้น สภาพพื้นที่ส่วนมากเป็นหินทรายและพื้นที่ศิลา ส่วนดินเป็นดินลูกรัง ดินบรบือ และดินตะกอน
ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศจัดอยู่ในเขตลมมรสุม แต่เนื่องจากอยู่ใกล้แม่น้ำสำคัญสายใหญ่ 2 สาย คือ แม่น้ำมูล และแม่น้ำโขง อากาศจึงแตกต่างจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั่วไป คือ ฤดูร้อน อากาศจะไม่ร้อนจนเกินไป อยู่ในราว 25-29 องซาเซลเซียส ฤดูหนาว ไม่หนาวจัด ส่วนฤดูฝน ฝนตกค่อนข้างชุก ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในฤดูฝนและฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมแม่น้ำมูล แม่น้ำโขงและน้ำตกต่าง ๆ ส่วนในปลายฤดูหนาวและฤดูร้อน นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมแก่งต่างๆ
สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบ เป็นเขาเตี้ย ๆ มีแม่น้ำมูล แม่น้ำโขง ไหลผ่าน ความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาบรรทัด สูงประมาณ 543 เมตร สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดง จะมีป่าดิบเฉพาะบริเวณริมห้วยใหญ่เท่านั้น สภาพพื้นที่ส่วนมากเป็นหินทรายและพื้นที่ศิลา ส่วนดินเป็นดินลูกรัง ดินบรบือ และดินตะกอน
ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศจัดอยู่ในเขตลมมรสุม แต่เนื่องจากอยู่ใกล้แม่น้ำสำคัญสายใหญ่ 2 สาย คือ แม่น้ำมูล และแม่น้ำโขง อากาศจึงแตกต่างจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั่วไป คือ ฤดูร้อน อากาศจะไม่ร้อนจนเกินไป อยู่ในราว 25-29 องซาเซลเซียส ฤดูหนาว ไม่หนาวจัด ส่วนฤดูฝน ฝนตกค่อนข้างชุก ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในฤดูฝนและฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมแม่น้ำมูล แม่น้ำโขงและน้ำตกต่าง ๆ ส่วนในปลายฤดูหนาวและฤดูร้อน นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมแก่งต่างๆ
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าแพะและป่าแดง มีไม้เต็ง รัง เหียง พลวง ฯลฯ ซึ่งมีลักษณะแคระแกรน นอกจากนี้ยังพบป่าเป็นสภาพป่าดิบแล้งบ้างตามบริเวณลำห้วยใหญ่ ๆ และบนดอยตะนะ พรรณไม้ที่ขึ้นอยู่ ได้แก่ ไม้ประดู่ แดง หว้า สัก ยาง นอกนั้นมีทุ่งหญ้าอยู่บ้างเป็นหย่อม ๆ ไม้พื้นล่างมีพวกไม้ไผ่ และไม้เถาอื่น ๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป
สัตว์ป่าที่พบเห็นประกอบไปด้วย หมูป่า เก้ง อีเห็น ชะมด ลิง ชะนี นกชนิดต่างๆ และปลาชนิดต่าง
แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม
ดอนตะนะ เป็นดอนดินที่เกิดขึ้นขวางแม่น้ำมูล และแบ่งแม่น้ำมูลออกเป็นสองสาย มีความกว้างประมาณ 450 เมตร ยาวประมาณ 700 เมตร ทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การ พักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง บนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ทั่วไป สภาพเป็นป่าดิบแล้ง มีไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นและมีป่าสักตามธรรมชาติ
สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าแพะและป่าแดง มีไม้เต็ง รัง เหียง พลวง ฯลฯ ซึ่งมีลักษณะแคระแกรน นอกจากนี้ยังพบป่าเป็นสภาพป่าดิบแล้งบ้างตามบริเวณลำห้วยใหญ่ ๆ และบนดอยตะนะ พรรณไม้ที่ขึ้นอยู่ ได้แก่ ไม้ประดู่ แดง หว้า สัก ยาง นอกนั้นมีทุ่งหญ้าอยู่บ้างเป็นหย่อม ๆ ไม้พื้นล่างมีพวกไม้ไผ่ และไม้เถาอื่น ๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป
สัตว์ป่าที่พบเห็นประกอบไปด้วย หมูป่า เก้ง อีเห็น ชะมด ลิง ชะนี นกชนิดต่างๆ และปลาชนิดต่าง
แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม
ดอนตะนะ เป็นดอนดินที่เกิดขึ้นขวางแม่น้ำมูล และแบ่งแม่น้ำมูลออกเป็นสองสาย มีความกว้างประมาณ 450 เมตร ยาวประมาณ 700 เมตร ทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การ พักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง บนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ทั่วไป สภาพเป็นป่าดิบแล้ง มีไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นและมีป่าสักตามธรรมชาติ
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตู้ ปณ. 6045 อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 64220 โทรศัพท์ : 0 - 4544 2002
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น